Meta

วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

รีวิวเครื่องบดเมล็ดกาแฟมือหมุน Hario MSS-1 (ทรงสูง)

สมัยก่อนผมซื้อกาแฟสดชนิดที่บดแล้วมาชงเอง แต่รู้สึกว่ากาแฟไม่หอมเท่าที่ควรจึงได้หาข้อมูลว่า
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น สุดท้ายถึงบางอ้อว่ากาแฟที่บดเรียบร้อยแล้วควรจะนำมาชงภายใน 1 ชม.
ไม่อย่างนั้นคุณภาพจะลดลงอย่างมาก จากนั้นจึงหาเครื่องบดเมล็ดกาแฟที่มีขายตามท้องตลาด
พบว่าชนิดที่ใช้ไฟฟ้าและคุณภาพยอมรับได้ก็มีราคาค่อนข้างสูง(เฉียดๆหมื่นบาท) แต่ถ้าใช้เครื่องปั่น
ทั่วไป ก็จะมีความละเอียดไม่สม่ำเสมอและทำให้เกิดความร้อนสูงแล้วกาแฟเสียรสชาติ สุดท้ายก็เลย
มาจบที่เครื่องบดเมล็ดกาแฟชนิดมือหมุนยี่ห้อ Hario จากญี่ปุ่น(ราคาประมาณพันกว่าบาท)
ซึ่งมีข้อเสียหลักๆเพียงอย่างเดียวคือ..เหนื่อย..ไม่เหมาะกับการชงปริมาณเยอะๆ ถ้าสนใจสามารถ
หาซื้อได้จากอินเตอร์เน็ต


รุ่นที่ผมซื้อมาใช้นั้นคือ MSS-1 ซึ่งเป็นทรงสูง จับถนัดมือ.. บดได้ครั้งละไม่เกิน 2 shot มีชิ้นส่วนหลัก
ทั้งหมด 3 ชิ้นด้วยกันคือ

1) เซรามิคสำหรับบด + ฝาปิด.. ชิ้นส่วนนี้สำคัญที่สุดต้องระวังเป็นพิเศษ ห้ามทำตกเพราะค่อนข้างเปราะ

2. ถ้วยรับผงกาแฟ สามารถประกอบกับชิ้นส่วนแรกโดยใช้เกลียวหมุนเข้าไป มีตัวเลขระบุปริมาณ shot

 


3. แกนหมุนสำหรับบดเมล็ดกาแฟ ใช้ประกอบด้านบนของชิ้นส่วนแรก


สำหรับขั้นตอนบดเมล็ดกาแฟ ทำได้ไม่ยากแค่ต้องปรับจนกระทั่งลงตัวและหลังจากนั้นก็ใช้แรงหมุนๆๆๆ
พร้อมแล้วก็ทำตามนี้เลยครับ

1. เช็คอุปกรณ์ก่อนว่า ทุกชิ้นส่วนต้องแห้งสนิท
2. ปรับความละเอียดของการบดเมล็ดกาแฟตามชนิดเครื่องชง โดยการหมุนตัวปรับที่บริเวณด้านล่าง
    ของชิ้นส่วนที่หนึ่ง(เซรามิคสำหรับบด) ซึ่งการตั้งค่าครั้งแรกต้องลองผิดลองถูกประมาณ 2-3 รอบ
    จากนั้นก็ไม่ต้องปรับอีก


3. ประกอบชิ้นส่วน เซรามิคสำหรับบดเข้ากับถ้วยรับผงกาแฟ

4. เทเมล็ดกาแฟใส่เครื่องบดที่ด้านบนตามปริมาณที่ต้องการชง



5. ใส่ฝาปิด และประกอบแกนหมุนตามลำดับ จะได้ดังภาพ

6. เริ่มบดเมล็ดกาแฟโดยหมุนตามทิศทางที่ลูกศรชี้เท่านั้น โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 นาทีต่อ shot
    ผงกาแฟก็จะหล่นลงมาในถ้วยด้านล่าง


7. บดจนกระทั่งเมล็ดกาแฟหมด(จะรู้สึกว่าไม่มีแรงต้านแล้ว)

8. ถอดถ้วยชงกาแฟออกมา แล้วนำผงกาแฟไปเทในเครื่องชงได้เลย


เพียงเท่านี้เราก็ได้ผงกาแฟที่มีกลิ่นหอมและมีความสดจริงๆแล้วครับ

1 ความคิดเห็น: